[SF HSJ] IN THE BOX [Arioka Daiki] - [SF HSJ] IN THE BOX [Arioka Daiki] นิยาย [SF HSJ] IN THE BOX [Arioka Daiki] : Dek-D.com - Writer

    [SF HSJ] IN THE BOX [Arioka Daiki]

    อยู่ๆก็มีกล่องปริศนามาตั้งอยู่หน้าห้อง .........ข้างในนั้น มันคืออะไรกันแน่นะ??

    ผู้เข้าชมรวม

    278

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    278

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 57 / 14:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    In the box
     

    cr- rrr_roooll
     

    Title: In the box

    Cast: Arioka Daiki

    Genre: Fantasy Comedy

    Author: I-PrA

    Rate : ฉ.ฉิ่ง

     

     

                   

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

         คืนนี้เป็นคืนฮัลโลวีน วันปล่อยผีครับ .....สำหรับผม อาริโอกะ ไดกิ ที่มีชีวิตอยู่มาได้ 22 ปี โดยที่ไม่เคยกลัวสิ่งเร้นลับๆใดทั้งปวงบนโลกนี้ และก็ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นวันสำคัญอะไรที่ต้องให้ความสำคัญ

       

      ........มันก็แค่วันๆนึงที่กำลังจะผ่านไปเท่านั้นเอง......

       

                      ผมใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดามาตลอด ตื่นเช้ามา ไปทำงาน แล้วก็กลับบ้าน เป็นซาลารี่แมนในบริษัทธรรมดาๆที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร

       

                      แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดในช่วงหัวค่ำที่ผมกลับมาถึงแมนชั่นของตัวเองเพื่อพักผ่อนนั่นแหละครับ

       

                      นี่มันกล่องอะไร?!!”
       


       ผมเจอลังกระดาษแปลกๆตั้งอยู่หน้าห้องของตัวเอง.... มันเป็นกล่องเล็กๆที่ปิดฝาพับไว้อย่างลวกๆ ไม่ได้ปิดเทปอย่างแน่นหนาอะไร  ไม่มีแม้แต่โน๊ตหรือตัวอักษรเขียนจ่าหน้าถึงใคร......

       

                      .......แล้วทำไม...ถึงต้องมาอยู่หน้าห้องผมด้วยล่ะ .....

       

                      .......ถัดไปอีกสักสองห้องมันจะตายมั้ยห้ะ!!......

       

       

       

                      .......เปิดดูดีมั้ยอะ........

       

                      ผมสองจิตสองใจลังเลว่าจะเปิดดูดีรึไม่ดีอยู่เป็นนานสองนาน ..คือจะทำเป็นไม่สนใจแล้วเข้าห้องไปก็ไม่ได้ เพราะกลัวว่าของข้างในจะเป็นของอันตราย อย่างพวกระเบิดอะไรเทือกๆนี้ ...ถ้าเกิดมันระเบิดตูมตามขึ้นมาผมคงจะตายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ซึ่งผมคงยอมไม่ได้

       

      ........ยุ่งยากจริง.......

       

                      สุดท้ายก็กลั้นใจยกตีนยื่นไปเขี่ยๆเปิดกล่องเข้าจนได้ ......แล้วก็มีอันต้องสะด้งสุดตัวเมื่อกล่องใบเล็กนั้นสั่นเล็กน้อยให้คนใจกล้าได้ใจเสียเล่น

       

                      ......คิดในแง่ดี บางทีมันอาจจะเป็นพวกสัตว์ตัวเล็กๆ หมา แมวที่ถูกทิ้งเสียล่ะมั้ง

                      ..... แต่ว่า แมนชั่นที่เขาอยู่ตอนนี้มันมีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์นี่นา .....ใครมือบอนเอามาทิ้งไว้กันนะ

       

                      ผมค่อยๆชะโงกหน้าไปดูว่า อะไร กันแน่ที่อยู่ในกล่องบ้านี่

       

                      นี่มันตัวอะไรน่ะ?!!”

       

                      ......สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตัวสีฟ้าสดใส บนตัวสวมห่วงยางว่ายน้ำสีแดงสลับขาว ห้อยนกหวีดไว้ที่คอ บนหัวกลมๆนั่นสวมแว่นดำน้ำไว้ด้วย......

       

                      ......ตอนนี้มันดำลังจะเข้าหน้าหนาวแล้วไม่ใช่รึไง  ไอ้พร็อบแห่งฤดูร้อนนี่มันอะไรกัน!! ….

       

                      ผมยืนนิ่งประสานสายตากับตากลมๆแป๋วๆแบ๊วๆของเจ้าตัวนั้นอยู่สักพัก

       

                      อ่าห์...น่ารักจังเลย~”

                     

      หน้าตาบ้องแบ๊วของมันดึงดูดให้ผมก้มลงอุ้มเจ้าตัวสีฟ้าขึ้นมากอดไว้เหมือนลูกหมาลูกแมวเกิดใหม่ตัวน้อยๆ

                      แล้วพอผมลูบหัวกลมของมันเบาๆ

       

      เซบ้า~” ....เจ้าตัวสีฟ้ามันทำหน้าตาร่าเริง ร้องครางตอบรับอย่างมีความสุข .... ดูท่าจะชอบให้ลูบหัวนะ

       

                      “หืม....ร้องว่าอะไรนะ  นายคือตัวอะไรน่ะ?”

       

                      .....ตัวสีฟ้าๆจิ๋วๆแบบนี้  .......รึมันคือตัวสเมิร์ฟที่หลุดมิติออกมาจากในป่าแบบหนังฮอลลีวูดกันนะ!!

                      .....ไม่สิ สเมิร์ฟไม่หน้าตาแบบนี้ ...ไอ้ตัวนี้หน้าดูโง่กว่าเยอะเลย แถมพร็อบหน้าร้อนนี่ก็แบบ.....ไร้เซ้นส์สุดๆ

       

                      “หลงมาเหรอ หรือจะมาขออยู่ด้วย

       

                      เซบ้า~” ไอ้ตัวเล็กสีฟ้ามันทำหน้าอ้อนขั้นสุด... ตาใสๆนั่นเริ่มคลอไปด้วยน้ำที่หัวตาแล้ว

       

                       ….รึว่าเจ้านี่จะรู้นะ ว่าเขาแพ้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กน่ารักเสมอ…..

       

                      โอ้ย...ทำไงดี รู้สึกเหมือนตกหลุมรักไปแล้วน่ารักอะไรแบบนี้.....มาอยู่กับฉันนะ

       

                      แล้วผมก็ตัดสินใจเปิดประตูพาเจ้าตัวเล็กเข้าห้อง โดยไม่ลืมเตะหลักฐานลังกล่องกระดาษนั่นเข้าห้องไปด้วย

                     

                      อ่ะ....

       

                      มีกระดาษโน้ตแผ่นเล็กกระเด็นออกมาจากกล่องด้วย โน้ตนั่นมีตัวหนังสือเขียนไว้แค่คำเดียว ว่า ยูยะเซบ้า

       

                      ยูยะเซบ้า.....ชื่อนายเหรอ?” ผมก้มลงถามเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด

                      เซบ้า~”

      ......ใจคอจะร้องเป็นอยู่คำเดียวใช่มั้ยเนี่ย..... แต่มันก็ทำหน้าร่าเริง เหมือนกำลังดีใจที่ถูกเรียกชื่อ... งั้นก็คงเป็นชื่อของเจ้านี่แหละนะ

                      คงใช่ล่ะนะ งั้นฉันจะเรียกนายว่าเซบ้าจังนะ

      เซบ้า~”

       

                      นับจากวินาทีที่พาเจ้าตัวเล็กสีฟ้าเข้ามาในห้อง มันก็เหมือนว่าจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมแล้วเรียบร้อย ....ผมเห่อมันยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด....มันทั้งน่ารัก ขี้อ้อน แต่ก็เชื่อฟัง แถมยังชอบแช่น้ำเป็นที่สุด .....

                      ถามว่าผมรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ..ก็เพราะว่าผมจับเจ้าตัวเล็กแช่น้ำในอ่างใบเล็กแล้ววางไว้ในซิงค์ล้างจานในระหว่างที่ผมผละออกไปเตรียมทำอาหารเย็น......เห็นว่าเจ้านั่นตีขาลอยไปลอยมาลั้ลลาอยู่ในน้ำด้วยห่วงยางสีแดงอันเป็นพร็อบที่ติดมากับตัวมันนั่นแหละ

                      แต่ชะล่าใจได้ไม่เท่าไหร่ หางตาผมก็เห็นเจ้านั่นปีนขึ้นมาเดินดุ้กดิ้กๆอยู่ขอบซิงค์ แล้วก็พลาดท่าไหลตกลงไปในซิงค์ล้างจาน พอพยายามที่จะปีนขึ้นมาใหม่ ก็ดันไปเปิดโดนคันโยกก๊อกเข้าซะได้......เลยโดนมวลน้ำจำนวนมากกระแทกเข้าโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว

       

                      เฮ้ย เซบ้า!!” ผมรีบรุดมาหิ้วเจ้าตัวสีฟ้าออกมาวางไว้บนผ้า เจ้านั่นนั่งตัวสั่นงันงก แถมด้วยฮัดชิ้วเป็นเสียงเล็กๆฟังดูน่ารักน่าเอ็นดูเกินกว่าจะว่ากล่าว

      ......ถึงจะชอบน้ำแค่ไหน แต่เจอแบบนี้เข้าไปก็ต้องสำลักเป็นธรรมดา สินะ.....

       

                      “สำลักเลยสิ สมน้ำหน้าดีมั้ยเนี่ย.....อย่าซนสิ

                      ถึงวาจาจะใจร้ายไปอยู่บ้าง แต่ผมก็เอาผ้าผืนขนหนูผืนเล็กที่ลงทุนตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้เป็นสมบัติของเซบ้ามาคลุมแล้วเช็ดตัวให้เบาๆ

                      เจ้านั่นทำหน้าหงอย ยินยอมแต่โดยดีไม่มีปากมีเสียง ...หรือว่าอาจจะช็อกจากการโดนน้ำราดใส่ก็เป็นได้

       

                      อ่ะ กินนี่สิ

                      ผมเห็นแล้วก็อดเอ็นดูมันไม่ได้อีกนั่นแหละ เลยไปหยิบเอาคุกกี้มาหักเป็นชิ้นเล็กๆให้เป็นการปลอบขวัญ….เจ้านั่นน่ะเห็นขนมทีไรล่ะก็ยิ้มร่าเริงได้ทุกทีแหละ ......

       

                      .

                      .

       

                      เซบัาจัง อาบน้ำกันเถอะ

                      เซบ้า~”

       

      ......ไม่รู้ว่าเจ้านั่นเข้าใจหรือเปล่า แต่แค่ได้ยิ่งว่าเล่นน้ำหรืออาบน้ำ มันก็ทำหน้าระริกระรี้นำมาก่อนแล้วล่ะ......

       

                      ผมก้าวเท้าลงไปนั่งแช่ในโอฟุโระร่วมกับเจ้าเซบ้าที่ตีขาลอยไปลอยมาเล่นกับเป็ดของเล่นตัวสีเหลืองสองสามตัวอยู่ก่อนหน้าแล้ว

                      เอ๋...เซบ้าจังพุงป่องขึ้นล่ะ เมื่อกี้กินมากไปล่ะสิ...แถมกินแต่เนื้อด้วยสิ ฮิฮิ

                      อ้ะ หย๋าๆๆๆๆๆ

      ...เจ้านั่นยกมือขึ้นปิดหน้าที่ระเรื่อแดงขึ้นมา แล้วก็พยายามตีขารัวๆลอยหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้.... มันก็น่าขำอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

       

                      ฮ่าๆๆ แค่นี้ทำเป็นเขินด้วยอ่ะ เอ้าๆๆ ไม่ต้องมุดน้ำแบบนั้น ตูดโด่งหมดละ ก้นก็ใหญ่..น่าตีชะมัด

                      อ๊า~”

       

                      .....เจ้าเซบ้านี่มันน่ารักน่าฟัดชะมัด .....แถมแกล้งก็สนุก......

       

      ......ผมไม่เคยรู้สึกมีความสุขจนลืมเวลาแบบนี้มาก่อนเลย .....

                     

      .

                      .

                     

      พอตกดึก ....เข้าใกล้เที่ยงคืนมากเท่าไหร่

       

      เซบ้าจังที่นอนซุกอยู่บนอกผมเกิดตัวร้อนราวกับไฟ อาการเหมือนคนไม่สบายเป็นไข้ขึ้นมาซะเฉยๆ

      เอาอะไรให้กินก็ไม่ยอมกิน ...เจ้านั่นส่ายหน้าหนีไม่อยากอาหารทั้งๆที่เมื่อเย็นออกจะสวาปามราวกับของชอบแท้ๆ

       

      ...... ผมเดินพล่านไปมาอยู่ในห้องอย่างคนคิดไม่ตก โดยที่เจ้านั่นนอนหายใจรวยรินหน้าแดงแจ๋ตัวร้อนจี๋อยู่บนเตียง.....

      ......ความคิดนึงที่แวบขึ้นมาคือพามันไปส่งโรงพยาบาล .....แต่คิดไปคิดมาแล้วก็ไม่รู้จะบอกคุณหมอว่ามันคือตัวอะไรดี ....แถมยังไม่รู้ที่มาที่ไปที่แท้จริงอีกด้วย ....เกรงว่าแทนที่จะได้รักษา อาจจะโดนจับเข้าห้องทดลองแทนก็เป็นได้

      ......แบบนั้นไม่ดีแน่ๆล่ะ.....

       

      ...ผมเองก็ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงมาก่อน เพราะรู้สึกว่ามันเป็นภาระที่ต้องแบกความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ได้ประโยชน์อันใด ....ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันหายตัวร้อน แล้วกลับมาน่ารักร่าเริงตามเดิมสักที.....

       

       ....นอกจากอ้อมกอดอุ่นๆแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรให้เจ้านั่นได้อีก.....

       

       

       

      สุดท้ายก็เผลอหลับไปจนได้ แล้วพอสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังนอนกอดกับผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง .....เป็นคนที่ผมไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย แต่กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคย

      แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอตั้งสติได้ผมก็รีบกระถดตัวหนีห่างออกมาให้ไกลสุดขอบเตียง  ....จ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตาด้วยความหวาดระแวง

       

                      นะ...นายเป็นใครน่ะ

       

      ร่างใหญ่ที่มีผมสีน้ำตาลอ่อน และผิวสีน้ำผึ้งค่อยๆกระพริบตาเปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ หน้าตาง่วงงุน...ใบหน้าแดงก่ำราวกับคนไม่สบาย เป็นไข้ตัวร้อน

       

      .....เอ้ะ!! เป็นไข้ตัวร้อน.....

       

      ........เซบ้าจัง~!!!!!!........

       

                      เซบ้าจัง...........................หายไปไหน

       

      .......จำได้ว่าก่อนที่จะหลับไป เขายังกอดเซบ้าจังเอาไว้อยู่เลย .....แล้วทำไม.....

       

      ......ไม่เอาน่า..อย่าบอกนะว่า.....

       

      นายชื่ออะไร

       

      .....ผมจ้องตาอีกฝ่ายอย่างจริงจัง......

      .....พอดูชัดๆแล้วหมอนี่หน้าตาหล่อร้ายในแบบที่สาวๆชอบกันนักเชียวล่ะ.....

       

      ......ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าตัวจิ๋วสีฟ้าหน้าโง่ๆนี่มันจะหล่อได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ.......

       

      ยูยะ....

       

      .....เสียงของผู้ชายคนนี้ทุ้มและนุ่มลึกกว่า ต่างจากเสียงแจ๋วๆที่ร้องได้แต่คำว่า เซบ้าเซบ้า~ ได้ทั้งวันค่ำคืนหุ้ง .....

      .....ทั้งที่หน้าตาออกไปในทางวายร้ายแท้ๆ หากแต่สิ่งที่ผู้ชายคนนี้มีเหมือนกันกับเซบ้าจังคือแววตา........

       

      ........เหมือนกันเลย.....

      .....นัยน์ตาใสที่ดูบริสุทธิ์......

       

       “เซบ้าจังใช่มั้ย...

       

      อืม

       

      นายยังไม่ตาย....โฮ~”          

      ผมดีใจ..... ที่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่มีความสำคัญมากกับผมยังมีชีวิตอยู่....ก็เลยโผเข้าไปกอดร่างใหญ่อย่างลืมตัว และจากขนาดตัวของยูยะที่ใหญ่โตกว่าเยอะเลยกลายเป็นว่าผมหายเข้าไปในอกอุ่นนั่นซะแทน

       

      จริงสิ...นายไม่สบายอยู่นี่นา  เฮ้ย!! นายไม่ได้ใส่เสื้อผ้า

      สายตาที่เลื่อนลงต่ำโฟกัสเข้ากับบางสิ่งที่ทำให้ต้องสะดุ้งแล้วรีบผละตัวออกจากกอดนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้าผ้าห่มโยนไปปกปิดของสงวนที่กำลังเปิดเผยอย่างสง่า ..... ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้อยากเห็นของคนอื่นไปเรื่อยนะ!

       

      ฉันดีขึ้นแล้ว

      ก็...เมื่อกี้นายตัวร้อน

      หายแล้ว เชื่อสิ....วัดไข้ดูก็ได้

       

      ผมลองใช้หลังมือแตะเข้ากับหน้าผากของยูยะแล้วมาเทียบกับของผม

      .....อืม ไข้ลดแล้วจริงๆด้วย ...เป็นไปได้ยังไงกัน?....

       

      แตะแค่นั้นจะไปรู้ได้ยังไง มานี่สิ

      เฮ้ย~!”

       

      .....ผมถูกยูยะกระชากตัวเข้าไปใกล้ซะจนชิด....และบังคับโน้มหน้ามาสัมผัสไอร้อนที่หน้าผากของกันและกัน......

       

      .....แต่ด้วยระยะห่างที่ใกล้กันถึงขนาดนี้ ทั้งโครงหน้าได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากอิ่มที่คลอเคลียอยู่ในระยะน่าลิ้มลอง ......ไม่ยากเลยที่จะเผลอไผลไปกับอารมณ์ชั่ววูบที่คิดอยากจะสัมผัสอีกฝ่ายให้มากกว่านี้....

       

      ......อย่างที่ผมกำลังเป็นอยู่.......

       

       

       

      ........ผมจูบกับยูยะ........

       

       

      สัมผัสของยูยะอุ่น....หวานจนแทบหลอมละลาย

       

       

      ....... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ......

       

       

      กายกำยำที่เปลือยเปล่าของยูยะพลิกตัวขึ้นคร่อมอยู่เหนือร่างผม

       

       

      ....... แต่ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งรู้สึกถลำลึกเข้าไปทุกที .......

       

       

      ไดกิ......

       

      นัยน์ตาสีน้ำผึ้งไหม้ที่มีแต่ใบหน้าของผมสะท้อนอยู่ในนั้น

       

      .......ทำไมในแววตาของยูยะถึงแสดงออกมาว่ารักมากมายได้ขนาดนั้น......

       

       

      ....เป็นของฉันนะ

       

       

      ยูยะ

       

       

      ...... ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว .........

       

       

      .

      .

       

       

      นี่ยูยะ ถามหน่อยสิ.... นายเป็นใครกันแน่หรือ

       

      ....ผมที่เปลือยเปล่าได้แต่เบียดซุกเข้าหาไออุ่นจากร่างใหญ่ที่โอบกอดเขาไว้ทั้งตัว .....ถามไปมือก็ซุกซนลูบไล้เล่นไปบนแผงอกสมส่วนนั้นอย่างหมันเขี้ยว....

       

       “มาถามเอาตอนนี้น่ะนะ

       

      .....ยูยะอาจจะหมายถึง ..ทำไมเขาถึงเพิ่งจะคิดมาถามเอาตอนที่อะไรๆมันเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วละมั้ง....

       

      ก็ฉันอยากรู้นี่

       

      .......ถ้าคิดว่าตัวเองตอนที่เป็นเซบ้าจังตัวจิ๋วจะอ้อนได้คนเดียวล่ะก็ ...คิดใหม่ได้นะยูยะ .....

       

      ยูยะ...ก็คือเซบ้าจังของนายไง

       

      แล้วทำไมถึงกลายมาเป็นสภาพนี้ได้ล่ะ 

       

      ....พระจันทร์น่ะ

       

      หา...อ่ะ..พระจันทร์เต็มดวงนี่นา....หรือหมายความว่านายจะกลายร่างเป็นมนุษย์ทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวงน่ะหรือ

       

      ...ก็ประมาณนั้น

       

      แล้วที่ตัวร้อนก็เพราะกำลังจะกลายร่างใช่มั้ย

       

      ...คงงั้น

       

      แล้วถ้าพ้นคืนพระจันทร์เต็มดวงไปแล้ว นายจะกลับมาเป็นเซบ้าจังใช่มั้ย

       

      ใช่...

       

      เฮ้อ..ค่อยยังชั่วหน่อย

       

       

       

       

      เป็นฉันแล้วมันแย่มากเลยเหรอ

       

      ....ยูยะเสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ....ดูท่าว่าผมจะเผลอทำร้ายจิตใจเข้าเสียแล้วล่ะ....

       

      ก็...เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น

       

      นายรักแต่เซบ้าจัง...

       

      ไม่ใช่สักหน่อย...ฉันแค่ยังไม่ชินกับ...ร่างนี้ของนายน่ะ

       

      .........

       

      ไม่ว่าจะอยู่ในร่างไหน ข้างในนี้ก็คือนายไม่ใช่หรือยูยะ...นายเป็นคนสำคัญของฉันทั้งคู่นะ

       

      นายก็สำคัญที่สุดสำหรับฉันเหมือนกันนะไดกิ

       

       

      ........ให้ตาย... ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยใจสั่นหวั่นไหวกับใครได้มากเท่านี้เท่าก่อนเลย......

       

      .......นายเป็นคนแรกนะยูยะ......

       

       

       

       

       

      .......ผมกับยูยะ ......

       

       

      .......เราจูบกัน.......

       

       

                      ในเมื่อผมจะมีโอกาสเจอกับยูยะในร่างนี้อีกก็ต่อเมื่อวันที่พระจันทร์เต็มดวง ...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน

       

       

                      ผมจึงขยับไปกระซิบข้างหูยูยะเบาๆ

       

                      อีกรอบกันเถอะยูยะ

       

       

       

      THE END

       

       

      I-PrA Talk : จริงๆแล้วฟิกสั้นเรื่องนี้ลงในบล็อกตั้งแต่ฮาโลวีนปีที่แล้ว แต่ลืมลงที่นี่ แหะๆ
      ก็ลงไว้เผื่อๆคนที่ยังไม่ได้อ่านแล้วกันค่า~ เอนจอยรีดดิ้ง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×